The Typhoon

-

สัมภาษณ์ นักสู้ "The Typhoon"...มีคืนนึงผมฝันว่า ผมขึ้นเวทีมวย แต่ผมขึ้นไม่ได้...


ผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย NAKSU MMA Thailand 2011 รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 64 กิโลกรัม


  • : ศึก"นักสู้"รอบที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างครับ?
  • The Typhoon

    ออ..ก็เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นแล้วก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากครับ เพราะว่าก็เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ขึ้นเวทีแบบ MMA ก็คิดว่าได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเพราะว่าพอเราฝึกมวยอยู่ ฝึกกับคู่ซ้อมฝึกกับศิษย์พี่ศิษย์น้องอะไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับเวลาขึ้นเวที ที่เราต้องสามารถเอาอาวุธออกมาใช้ได้ ซึ่งผมไปแข่งมาคราวนี้ก็เลยได้รู้จักตัวเองมากขึ้นว่า...เออ พอถึงเวลาที่ต้องใช้วิชาแล้วจะเป็นยังไง พอขึ้นบนเวทีเราปฏิบัติตัวยังไง เราสติอยู่กับกายรึเปล่า เราใช้วิชาที่ครูบาอาจารย์ศิษย์พี่ศิษย์น้องฝึกกับเรามาได้รึเปล่า ก็จากประสบการณ์นี้ก็คือ พอเรากลับมาเรียนรู้แล้วมาพัฒนาตัวเองต่อนะครับ

  • : เริ่มต้นฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างไรบ้างครับ?
  • The Typhoon

    สมัยเด็กก็เคยฝึกยูโดอะไรมาก่อน แล้วก็โตขึ้นมาก็ไม่ค่อยได้ฝึกอะไรจริงจังเท่าไร่ แต่ก็ได้มาฝึกเป็นเรื่องเป็นราวก็ 5-6 ปี ที่ผ่านมานี่แหละครับที่มาฝึกหวิงชุน (Wing Chun) เป็นหลักครับ

  • : ช่วงนั้นเกิดความประทับใจอะไรจึงเข้ามาฝึกหวิงชุนครับ?
  • The Typhoon

    หวิงชุนนี่ก็พอได้สัมผัสกับวิชาที่ อ.อนันต์ ได้สอนให้ผมแล้วก็ทำให้รู้สึกว่า เฮ้ย! ดี มันไม่ใช่เรื่องของแค่แรง แรงกล้ามเนื้อหรืออะไรอย่างงี้ เป็นเรื่องของว่ามันมีหลักการในการต่อสู้ที่พอเราฝึกได้แล้ว มันมีประสิทธิภาพสูงมาก มันไม่ต้องออกแรงมาก มันใช้โครงสร้าง มันใช้เทคนิคที่ดีเนี๊ยสามารถทำไรได้มากกว่าที่เราคิดเยอะนะครับ ได้สัมผัสกับส่วนนี้ผมก็ติดใจก็ฝึกมาตลอดเลย

  • : มีนักสู้ MMA หรือใครที่เราชื่นชอบบ้างไหมครับ?
  • The Typhoon

    ที่ผมขึ้นแข่งนี่ ความจริงก็มันก็เป็นอะไรที่เพิ่งมาตัดสินใจเมื่อเร็วๆนี้ แต่ก่อนนี้อาจจะไม่ค่อยได้ติดตามอะไรมาก่อน แต่นักสู้ MMA คนแรกที่ทุกคนรู้จักกันก็จะเป็น บรู๊ซ ลี (Bruce Lee) ไช่ไหมครับ ที่เค้าได้เอาหวิงชุนเนี้ยมาผสมกับหลายๆอย่าง ที่เขาได้เรียนรู้มาไม่ว่าจะเป็นมวยสากลหรือว่า Fencing อะไรต่างๆนะครับ ถ้าเกิดในแง่ของ MMA คนแรกที่ผมนึกขึ้นมาได้ก็คือ บรู๊ซ ลี นี่ละฮะ

  • : ตอนที่ขึ้นสู้กับคู่ต่อสู้บนเวที ช่วยเล่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นหน่อยครับ?
  • The Typhoon

    ครับ ก็ขึ้นไปนี่ละครับก็มีแผนว่าจะทำอย่างงี้พอมันเอาเข้าจริงๆ โอโห..มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ มันก็ไม่ไช่ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คิด แต่ก็รู้ตัวอีกทีนึงมันก็จบไปเสียแล้ว ผมก็เลยมองว่า เอ๊ย! OK ถึงแม้มันจะไม่เป็นไปตามที่เราคิดทุกอย่างเนี๊ย แต่เราก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ เราสามารถมาพัฒนาตนเองได้ต่อนะครับ เพื่อให้ได้แสดงวิชาได้ฝึกวิชาให้เหมือนที่เราเรียนมา อย่างที่อาจารย์อย่างที่ศิษย์พี่ศิษย์น้องเราได้สอนเรามา

  • : ใครเป็นผู้แนะนำให้มาแข่งขันศึก"นักสู้"ครับ?
  • The Typhoon

    อืม...ความจริงผมก็เคยเห็นคลิปในอินเตอร์เน็ต ผมไม่ได้เริ่มจากว่าอยากจะแข่ง"นักสู้" แต่ว่ามันเกิดแรงบันดาลใจที่จะแข่งขึ้นมา แล้วค่อยมารู้ว่ามันมีรายการ"นักสู้"ก็เลยลงสมัครแข่งอะครับ ทีนี้แรงบันดาลใจนี่มันมีจากว่า ผมก็ชอบศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าพอเรียนหนังสือหนัก ๆ อะไรอย่างงี้ก็ห่างเหินกับมัน แต่พอดีผมมีเพื่อนจาก ม.ปลาย เพื่อนผู้หญิงที่ผมได้เจอได้คุยกับเค้า เป็นคนต่างชาติเป็นคนฟิลิปปินส์ เค้ามาเล่าให้ผมฟังว่า เค้าก็ฝึกมวยสากลเหมือนกันแล้วเค้าก็เปิดค่ายมวย ผมฟังแล้วผมก็เกิดแรงบันดาลใจ ขนาดเค้ายังทำได้ขนาดนี้ แล้วผมละ? ผมก็เคยมีความคิด เออ...อยากจะแบบอยากจะรู้ว่าเราทำได้ดีแค่ไหน อยากจะแข่งมวย ก็เกิดจุดประกายไป เอ้ย! ผมเอง เออเรายังไม่สายเกินไปนะ เราอยากจะลองดูเหมือนกัน อยากจะลองขึ้นเวทีดูว่าเป็นยังไงบ้างนะครับ

  • : ได้ดูคุณฟ้าคำรามคู่ต่อสู้คนต่อไปรึยังครับ?
  • The Typhoon

    ครับ ก็ได้ศึกษามาบ้างก็เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวมาก ผมก็ต้องทำการบ้านให้ดี ๆ ถ้าเกิดผมจะแข่งกับเขาได้ดี ๆ นะฮะ งานนี้ก็รู้ตัวว่างานหนัก เพราะรู้ว่าหลาย ๆ คนก็คิดว่าเค้าน่าจะเป็นคนที่ได้เปรียบ อย่างไรก็ตามเราก็ต้องรู้ว่าเค้าเป็นไง แล้วเราก็รู้จากตัวเรา แล้วก็เตรียมตัวให้สามารถสู้ได้เต็มที่นะครับ ก็พอมีเวลาหน่อยนึงก็จะฟิตซ้อมให้เต็มที่

  • : เตรียมตัวฟิตซ้อมอย่างไรบ้างครับ?
  • The Typhoon

    หลัก ๆ ก็ฝึกกับศิษย์พี่ฝึกกับที่สำนักงี้อะครับ แล้วก็มีเวลาก็ออกกำลังกายเองบ้าง วิ่งอะไรบ้างอะครับ แต่ก็มีบางช่วงที่งานหนักจน..โอโห มันทำไม่ได้อย่างที่เราคิด แต่ก็นะชีวิตคนเราไม่ไช่ว่าทุกคนจะมีเวลาที่จะทำทุกอย่าง มีเวลาที่เราจะเตรียมตัวได้เต็มที่ เราก็ต้องมีเวลาใช้เวลาที่เรามีอยู่ทำให้ถึงที่สุดครับ

  • : ถ้าผ่านคุณฟ้าคำรามไปได้คิดว่าจะได้เจอกับใคร?
  • The Typhoon

    ก็น่าลุ้นก็มี Heam กับ THC นะครับ ผมก็ประทับใจกับลีลาการต่อสู้ของเค้าเหมือนกันนะ ก็ฝึกคนละแนวเป็นแนวมวยปล้ำมากกว่า ก็ดูแล้วก็คงต้องคนที่รู้สึกออกลาย Ground Fighting ได้ดีก็ดูแล้วผมก็ประทับใจเหมือนกันก็ THC นี่น่าจะเป็นคู่แข่งที่ต้องเตรียมตัวเยอะ ๆ ส่วน Heam นี่ก็มีลวดลายเหมือนกัน แต่ก็พอดีได้เห็นสไตล์การต่อสู้บน Ground ของ THC มากกว่า ก็เลยดูว่าเอออันนี้ก็เป็นการบ้านอันใหญ่ของผมอยู่เหมือนกันนะครับ

  • : ตอนนี้ทำงานอะไรที่ไหนครับ?
  • The Typhoon

    ก็เป็นวิศวกรอยู่ที่นึงนะครับ ความจริงผมต้องปกปิดเรื่องนี้ จากเพื่อนที่ทำงานกับครอบครัวเพราะว่าก็ไม่อยากให้เค้ากังวลอะครับ ก็เลยคิดว่าเรามาแข่งแบบเงียบ ๆ เราพยายามเต็มที่โดยที่ไม่ต้องเล่าอะไรให้ใครฟังมากมายมากก็ได้ (แปลว่าทางบ้านหรือเพื่อนๆคนสนิท ก็ไม่ทราบไช่ไหมครับ?) อ่า...จะมีเพื่อนสนิทบางคนทราบอะครับ แต่ว่าถ้าเกิดที่ทำงานหรือว่าที่บ้านเงี้ยก็คือเราบอกเค้าไป เค้าอาจจะกังวลอาจจะคิดมากอาจจะห่วงเรา ก็เลยคิดว่า..อ่ะ! เราอาจจะยังไม่ต้องให้เค้ากังวลมากนัก(555) ก็เลยยังไม่ได้บอกกับทางบ้านกับที่ทำงานอะไรมากครับ

  • : ทำไมใช้ชือบนสังเวียนว่า "ไต้ฝุ่น" ครับ?
  • The Typhoon

    ก็เหตุผลที่เลือกชื่อ"ไต้ฝุ่น" ก็คือเป็นพายุไช่ไหมครับ ก็หนักหน่วง แล้วก็สามารถโค่นตึกอะไรได้นะครับ ก็เลยคิดว่า เออ...นี่ก็เป็นชื่อแล้วเป็นไต้ฝุ่นนี่มันเป็นชื่อที่มีทั้งภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ เข้าใจได้ทุกภาษา ก็เลยคิดว่าเออเป็นสมญานามที่ดีครับ

  • : มีเป้าหมายในชีวิตอย่างไรบ้าง?
  • The Typhoon

    ผมก็พูดตรงๆว่าเป็นคนที่ช่างฝันเหมือนกัน นอกจากเรื่องมวยเนี๊ย ก็มีหลายอย่างที่อยากทำให้ถึงที่สุดเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน หรือว่าเรื่องของ Hobby อย่างอื่น เช่น เรื่องของการเล่นดนตรี หรือว่าเต้น Hiphop อะไรอย่างงี้ ก็มีความสนใจอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ว่าผมก็คิดว่าจากที่เคยลองทำหลายๆอย่างพร้อมกัน รู้สึกว่ามันไม่ได้อะไรดีสักกะอย่าง(555) ปีนี้เลยตัดสินใจว่า...เฮ้ย เรามาเต็มที่กับมวยดู เต็มที่กับมวยอย่างเดียวเลย แล้วดูว่าเป็นไงแล้วผลที่ออกมานี่ผมค่อนข้าง Happy นะครับ มีการพัฒนามากกว่าที่ตัวเองคาดคิดไว้นะครับ ผมเลยรู้สึกดีใจมากกับการที่ได้ฝึกซ้อมเต็มที่ เพื่อขึ้นแข่ง"นักสู้"นี่แหละครับ

  • : ช่วยกล่าวถึงผู้ที่ติดตามเชียร์คุณไต้ฝุ่นด้วยครับ
  • The Typhoon

    ผมก็รู้ตัวว่ามีคู่แข่งที่หนัก ใคร ๆ ก็เห็นว่าเค้าแบบมีประสบการณ์เยอะ ผมก็แค่อยากให้คนที่มาดูผมเห็นว่าผมได้ทำเต็มที่แล้วนะครับ ที่ผมเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะแข่งขึ้นมาเนี๊ย ความจริงมันมีเรื่องว่าจากที่ผมคุยกับเพื่อนมาว่าเค้าเปิดค่ายมวยเนี้ย มีคืนนึงผมฝันว่าผมขึ้นเวทีมวยแต่ผมขึ้นไม่ได้ ผมก้าวเข้าใส่แล้วมันกลับก้าวออกจากเวที ก็เลยสะกิดใจว่า เฮ้ย! ทำไมเราถึงไม่สามารถขึ้นไปบนเวทีได้ ผมก็เลยท้าพิสูจน์ตัวเองว่า เอ๊ย! เราต้องทำได้นะครับ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าอุปสรรคมันจะใหญ่โตแค่ไหน ถ้าเกิดเรามีใจพอนะฮะ อะไร ๆ ก็เป็นไปได้นะครับนี่คือความคิดของผม